Blog Archive
- 2012 (1)
-
2011
(46)
-
ธันวาคม(13)
- วิธีบูต Windows ให้เร็วขึ้น
- ปัญหา Chart ระหว่าง PowerPoint 2003 กับ 2007
- คำสั่งลัดใน Windows 7
- หา Driver ของ Windows 7 ไม่เจอ
- ยกเลิก System Restore Windows 7
- วิธีทำแผ่น Windows 7
- วิธี Updates Windows 7
- วิธีโอนย้ายไฟล์ใน Windows 7
- หา Driver ของ Windows 7 ไม่พบ
- แก้ไข This copy of windows is not genuine ของ wind...
- องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
- วิธีแชร์ไฟล์ระหว่าง Windows 7 กับ Windows XP
- แก้ปัญหา Windows 7 ติดตั้งโปรแกรมเวอร์ชั่น XP ไม่ได้
- พฤศจิกายน(4)
- ตุลาคม(1)
- กันยายน(3)
- สิงหาคม(8)
- กรกฎาคม(17)
-
ธันวาคม(13)
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
About
Categories
- การแก้ปัญหา (2)
- การ์ดจอ (1)
- แก้ไข This copy of windows is not genuine ของ windows7 (1)
- แก้ปัญหา Windows 7 ติดตั้งโปรแกรมเวอร์ชั่น XP ไม่ได้ (1)
- คำสั่งลัดใน Windows 7 (1)
- ปัญหาบูตขึ้นแต่เข้าวินโดว์ไม่ได้ (1)
- ปัญหา Chart ระหว่าง PowerPoint 2003 กับ 2007 (1)
- ยกเลิกการใช้งาน System Restore ใน Windows 7 (1)
- ยกเลิก System Restore Windows 7 (1)
- ลงวินโดว์ด้วย usb (1)
- วิธีแก้ปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น (1)
- วิธีแชร์ไฟล์ระหว่าง Windows 7 กับ Windows XP (1)
- วิธีทำแผ่น Windows 7 (1)
- วิธีบูต Windows ให้เร็วขึ้น (1)
- วิธีโอนย้ายไฟล์ใน Windows 7 (1)
- วิธี Updates Windows 7 (1)
- หา Driver ของ Windows 7 ไม่เจอ (1)
- หา Driver ของ Windows 7 ไม่พบ (1)
- องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ (1)
- allsiam (23)
- IDM 6.07 Build 8 (1)
- Notebook (2)
- Notebook Lenovo (1)
วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วิธีบูต Windows ให้เร็วขึ้น
วิธีบูต Windows ให้เร็วขึ้น
1. กดปุ่มโลโก้ Windwos + R เพื่อเรียกคำสั่ง run
2. พิมพ์คำว่า MSCONFIG และกดปุ่ม enter
3. จะพบหน้าต่าง System Configuration
4. ที่แท็ป Boot ให้คลิกเลือก No GUI boot
5. กดปุ่ม Apply และตามด้วย OK
1. กดปุ่มโลโก้ Windwos + R เพื่อเรียกคำสั่ง run
2. พิมพ์คำว่า MSCONFIG และกดปุ่ม enter
3. จะพบหน้าต่าง System Configuration
4. ที่แท็ป Boot ให้คลิกเลือก No GUI boot
5. กดปุ่ม Apply และตามด้วย OK
ป้ายกำกับ:
วิธีบูต Windows ให้เร็วขึ้น
|
0
ความคิดเห็น
วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ปัญหา Chart ระหว่าง PowerPoint 2003 กับ 2007
ปัญหา Chart ระหว่าง PowerPoint 2003 กับ 2007
ถ้าคุณสร้าง Chart และบันทึกเป็น 2003
สำหรับผู้ใช้งาน Microsoft PowerPoint 2007 และมีการบันทึกไฟล์เป็น PowerPoint 2003 (เพื่อให้คนอื่นๆ ที่ยังใช้เวอร์ชั่นเก่าๆ เปิดได้)?และแน่นอน ย่อมทำให้ความสามารถหลายๆ ขาดหายไป โดยเฉพาะในเรื่องของ Chart
เรื่องปกติของการสร้าง Chart ใน 2007
เวลาเราสร้าง Chart ใน?PowerPoint 2007 เพียงแค่เลือกคลิกสร้าง?Chart โปรแกรม PowerPoint 2007 จะทำการเปิดไฟล์ตาราง Excel ให้เราแก้ไขงานได้ทันที ซึ่งเวลาเราแก้ไขข้อมูล ตัว Chart ก็จะถูกอัพเดทไปด้วย?ส่วนเวลาบันทึกหรือ Save?เราสามารถบันทึกในส่วนของ PowerPoint ได้ โดยไม่จำเป็นต้องบันทึกในส่วนของ Excel?
เวลาเรียกกลับมาแก้ไข เพียงแค่เราดับเบิลที่ตัว Chart?(ด้านข้างของตัว Chart)?แท็ป Chart Tools จะปรากฏขึ้น และมีไอคอน Edit Data?ให้เลือก?และถ้าเราคลิกเลือก Edit Data โปรแกรม Microsoft?Excel ก็จะเปิดให้เราแก้ไขได้อัตโนม้ัติ ทำให้แก้ไขง่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น
ถ้าคุณสร้าง Chart และบันทึกเป็น 2003
สำหรับผู้ใช้งาน Microsoft PowerPoint 2007 และมีการบันทึกไฟล์เป็น PowerPoint 2003 (เพื่อให้คนอื่นๆ ที่ยังใช้เวอร์ชั่นเก่าๆ เปิดได้)?และแน่นอน ย่อมทำให้ความสามารถหลายๆ ขาดหายไป โดยเฉพาะในเรื่องของ Chart
เรื่องปกติของการสร้าง Chart ใน 2007
เวลาเราสร้าง Chart ใน?PowerPoint 2007 เพียงแค่เลือกคลิกสร้าง?Chart โปรแกรม PowerPoint 2007 จะทำการเปิดไฟล์ตาราง Excel ให้เราแก้ไขงานได้ทันที ซึ่งเวลาเราแก้ไขข้อมูล ตัว Chart ก็จะถูกอัพเดทไปด้วย?ส่วนเวลาบันทึกหรือ Save?เราสามารถบันทึกในส่วนของ PowerPoint ได้ โดยไม่จำเป็นต้องบันทึกในส่วนของ Excel?
เวลาเรียกกลับมาแก้ไข เพียงแค่เราดับเบิลที่ตัว Chart?(ด้านข้างของตัว Chart)?แท็ป Chart Tools จะปรากฏขึ้น และมีไอคอน Edit Data?ให้เลือก?และถ้าเราคลิกเลือก Edit Data โปรแกรม Microsoft?Excel ก็จะเปิดให้เราแก้ไขได้อัตโนม้ัติ ทำให้แก้ไขง่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น
คำสั่งลัดใน Windows 7
คำสั่งลัดใน Windows 7
โดยปกติเวลาเราสั่งรันโปรแกรม เรามักจะเข้าผ่านเมนู Start จากนั้นคลิก All Programs และคลิกเลือกโปรแกรมที่ต้องการ? หรือบางคนอาจใช้วิธีการสร้าง shortcut ไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่คุณเคยสังเกตหรือเปล่าว่า เวลาคนไอที ที่อาจเคยมา support คุณเวลาเครื่องมีปัญหา เขาเหล่านั้นมักจะมีการกดปุ่มพิมพ์คำสั่งต่างๆ โดยไม่ค่อยใช้การเรียกผ่านเมนู หรือใช้เม้าส์เลย เรามาดูกันดี
1. กดปุ่มที่แป้นพิมพ์ Windows Logo + R (เพื่อเรียกคำสั่ง Run)
2. พิมพ์คำว่า "msconfig" ตามด้วยกดปุ่ม enter?
3. คลิกเลือกแท็ป Tools
4. คลิกเลือกหัวข้อใด หัวข้อหนึ่ง
5. ให้สังเกต "Selected command" ด้านล่าง และดูในข้อความท้ายสุด เช่น ตัวอย่าง regedt32.exe เป็นต้น
6. คำสั่งนี้ใช้สำหรับรันโปรแกรม Registry Editor ผ่านทาง คำสั่ง RUN ได้โดยตรง
7. อยากรู้จักคำสั่งอื่นๆ ก็ให้ลองเลือกดูทีละโปรแกรมครับ
โดยปกติเวลาเราสั่งรันโปรแกรม เรามักจะเข้าผ่านเมนู Start จากนั้นคลิก All Programs และคลิกเลือกโปรแกรมที่ต้องการ? หรือบางคนอาจใช้วิธีการสร้าง shortcut ไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่คุณเคยสังเกตหรือเปล่าว่า เวลาคนไอที ที่อาจเคยมา support คุณเวลาเครื่องมีปัญหา เขาเหล่านั้นมักจะมีการกดปุ่มพิมพ์คำสั่งต่างๆ โดยไม่ค่อยใช้การเรียกผ่านเมนู หรือใช้เม้าส์เลย เรามาดูกันดี
1. กดปุ่มที่แป้นพิมพ์ Windows Logo + R (เพื่อเรียกคำสั่ง Run)
2. พิมพ์คำว่า "msconfig" ตามด้วยกดปุ่ม enter?
3. คลิกเลือกแท็ป Tools
4. คลิกเลือกหัวข้อใด หัวข้อหนึ่ง
5. ให้สังเกต "Selected command" ด้านล่าง และดูในข้อความท้ายสุด เช่น ตัวอย่าง regedt32.exe เป็นต้น
6. คำสั่งนี้ใช้สำหรับรันโปรแกรม Registry Editor ผ่านทาง คำสั่ง RUN ได้โดยตรง
7. อยากรู้จักคำสั่งอื่นๆ ก็ให้ลองเลือกดูทีละโปรแกรมครับ
ป้ายกำกับ:
คำสั่งลัดใน Windows 7
|
0
ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554
หา Driver ของ Windows 7 ไม่เจอ
การแก้ไขปัญหา Driver ไม่เจอ
วิธีง่ายๆ และสั้นๆ ในการแก้ไขปัญหา Driver ของ?Hardware ต่างๆ ไม่พบ นั่นคือ ใช้ Driver ของ Windows Vista แทน? ถูกครับ คุณอ่านไม่ผิด และผมก็เขียนไม่ผิดเหมือนกัน สาเหตุก็เพราะ สถาปัตยกรรฒของ Windows Vista และ Windows 7 มีรากฐานเดียวกัน ดังนั้น driver ส่วนใหญ่ที่ใช้งานได้กับ Windows Vista ก็สามารถใช้งานได้กับ Windows 7 ครับ (อาจไม่ครอบคลุม 100% ก็ตาม)?
อย่างนี้ ต้องไปทดสอบกันดูครับ
นอกจากนี้ คงต้องไปทดสอบกันก่อนการอัพเกรดว่า เครื่องคอมฯ ของเรา รองรับการใช้งาน Windows 7 หรือไม่ เพราะถ้า Spec ไม่ดีพอ ปัญหาที่พบก็คือ ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างน้อย แนะนำให้คุณมีหน่วยความจำหรือ Ram อย่างน้อย 2 GB ขึ้นไป
วิธีง่ายๆ และสั้นๆ ในการแก้ไขปัญหา Driver ของ?Hardware ต่างๆ ไม่พบ นั่นคือ ใช้ Driver ของ Windows Vista แทน? ถูกครับ คุณอ่านไม่ผิด และผมก็เขียนไม่ผิดเหมือนกัน สาเหตุก็เพราะ สถาปัตยกรรฒของ Windows Vista และ Windows 7 มีรากฐานเดียวกัน ดังนั้น driver ส่วนใหญ่ที่ใช้งานได้กับ Windows Vista ก็สามารถใช้งานได้กับ Windows 7 ครับ (อาจไม่ครอบคลุม 100% ก็ตาม)?
อย่างนี้ ต้องไปทดสอบกันดูครับ
นอกจากนี้ คงต้องไปทดสอบกันก่อนการอัพเกรดว่า เครื่องคอมฯ ของเรา รองรับการใช้งาน Windows 7 หรือไม่ เพราะถ้า Spec ไม่ดีพอ ปัญหาที่พบก็คือ ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างน้อย แนะนำให้คุณมีหน่วยความจำหรือ Ram อย่างน้อย 2 GB ขึ้นไป
ป้ายกำกับ:
หา Driver ของ Windows 7 ไม่เจอ
|
0
ความคิดเห็น
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ยกเลิก System Restore Windows 7
ยกเลิก System Restore Windows 7
System Restore เป็นเครืองมือที่ทำหน้าที่เหมือนโกดังเก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการทำงานของ Windows และไฟล์แอพพลิเคชัน ต่างๆ ที่ติดตั้งในระบบ เมื่อคุณต้องการเรียกคืนสถานภาพการทำงานในช่วงเวลาก่อนหน้าที่ระบบมีการเปลี่ยนแปลง System Restore จะสามารถสร้างจุดในการเรียกคืนระบบ (restore point) แต่สิ่งหนึ่งที่จะมีผลต่อการที่มี System Restore นั้นคือพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ จะน้อยลง เพราะต้องใช้พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์เป็นที่เก็บข้อมูล
วิธียกเลิก System Restore Windows วิธียกเลิกการใช้งาน System Restore ใน Windows 7
1. คลิกขวาที่ Computer เลือก Properties
2. คลิกเลือกเมนูด้านซ้าย เลือก System Protection
3. จะพบหน้าต่าง System Properties และแท็ป System Protection จะเปิดแสดงให้เห็น
4. คลิกเลือกไดรซ์ด้านล่าง ที่คำสั่ง Protection On อยู่
5. คลิกปุ่ม Configure..
6. คลิกเลือกหัวข้อ Turn off system protection
7. คลิกปุ่ม Apply และ OK เพื่อยืนยันการปิดการใช้งาน
System Restore เป็นเครืองมือที่ทำหน้าที่เหมือนโกดังเก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการทำงานของ Windows และไฟล์แอพพลิเคชัน ต่างๆ ที่ติดตั้งในระบบ เมื่อคุณต้องการเรียกคืนสถานภาพการทำงานในช่วงเวลาก่อนหน้าที่ระบบมีการเปลี่ยนแปลง System Restore จะสามารถสร้างจุดในการเรียกคืนระบบ (restore point) แต่สิ่งหนึ่งที่จะมีผลต่อการที่มี System Restore นั้นคือพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ จะน้อยลง เพราะต้องใช้พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์เป็นที่เก็บข้อมูล
วิธียกเลิก System Restore Windows วิธียกเลิกการใช้งาน System Restore ใน Windows 7
1. คลิกขวาที่ Computer เลือก Properties
2. คลิกเลือกเมนูด้านซ้าย เลือก System Protection
3. จะพบหน้าต่าง System Properties และแท็ป System Protection จะเปิดแสดงให้เห็น
4. คลิกเลือกไดรซ์ด้านล่าง ที่คำสั่ง Protection On อยู่
5. คลิกปุ่ม Configure..
6. คลิกเลือกหัวข้อ Turn off system protection
7. คลิกปุ่ม Apply และ OK เพื่อยืนยันการปิดการใช้งาน
ป้ายกำกับ:
ยกเลิก System Restore Windows 7
|
0
ความคิดเห็น
วิธีทำแผ่น Windows 7
ทำแผ่น Windows 7 "System Recovery Disc"
กันไว้ดีกว่านะครับ ท่านๆ สำหรับผู้ใช้งาน Windows 7
อันดับแรกก่อนที่จะใช้งาน Windows 7 ขอแนะนำ การทำแผ่นกู้ หรือ recovery disc?ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่ไม่คาดคิด ถ้าจู่ๆ วันดีคืนดี คุณไม่สามารถเปิดเข้า Windows 7 ได้ คุณจะทำอย่างไร? ไม่ยากครับ ถ้าคุณทำ Windows 7 "System Recovery Disc"
วิธีทำแผ่น Windows 7 "System Recovery Disc"
เริ่มกันเลยครับ
1. เปิดเข้าใช้งาน Windows 7 ปกติ
2. ใส่แผ่นเปล่า DVD ในช่อง DVD-Writer
3. คลิกเมนู Start พิมพ์คำว่า "Backup"
4. เลือกหัวข้อ Backup and Restore
5. คลิกหัวข้อ "Create a system repair disk"
6. เลือก DVD drive
7. คลิกปุ่ม "Create disc"
8. รอจนกระทั่งเสร็จ
9. ทดสอบโดยการ Restart Windows? (ควรกำหนดใน BIOS ให้สามารถ boot จากแผ่น CD/DVD ได้ก่อน) แค่นี้ท่านๆ ก็อุ่นใจได้แล้วว่า เวลา Windows 7 มีปัญหาและไม่สามารถเปิดได้? ท่านก็ยังมีแผ่นสำหรับ Recovery หรือกู้ได้??การใช้งาน ก็ใช้แผ่น boot นี้ boot แทน ฮาร์ดดิสก์ และทำตามคำสั่งทีหน้าจอเท่านั้น..? อ้อ ! อย่าลืมเขียนหน้าแผ่น DVD ด้วยว่า เป็นแผ่นทำหรับกู้ Windows 7 น่ะครับ..
กันไว้ดีกว่านะครับ ท่านๆ สำหรับผู้ใช้งาน Windows 7
อันดับแรกก่อนที่จะใช้งาน Windows 7 ขอแนะนำ การทำแผ่นกู้ หรือ recovery disc?ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่ไม่คาดคิด ถ้าจู่ๆ วันดีคืนดี คุณไม่สามารถเปิดเข้า Windows 7 ได้ คุณจะทำอย่างไร? ไม่ยากครับ ถ้าคุณทำ Windows 7 "System Recovery Disc"
วิธีทำแผ่น Windows 7 "System Recovery Disc"
เริ่มกันเลยครับ
1. เปิดเข้าใช้งาน Windows 7 ปกติ
2. ใส่แผ่นเปล่า DVD ในช่อง DVD-Writer
3. คลิกเมนู Start พิมพ์คำว่า "Backup"
4. เลือกหัวข้อ Backup and Restore
5. คลิกหัวข้อ "Create a system repair disk"
6. เลือก DVD drive
7. คลิกปุ่ม "Create disc"
8. รอจนกระทั่งเสร็จ
9. ทดสอบโดยการ Restart Windows? (ควรกำหนดใน BIOS ให้สามารถ boot จากแผ่น CD/DVD ได้ก่อน) แค่นี้ท่านๆ ก็อุ่นใจได้แล้วว่า เวลา Windows 7 มีปัญหาและไม่สามารถเปิดได้? ท่านก็ยังมีแผ่นสำหรับ Recovery หรือกู้ได้??การใช้งาน ก็ใช้แผ่น boot นี้ boot แทน ฮาร์ดดิสก์ และทำตามคำสั่งทีหน้าจอเท่านั้น..? อ้อ ! อย่าลืมเขียนหน้าแผ่น DVD ด้วยว่า เป็นแผ่นทำหรับกู้ Windows 7 น่ะครับ..
ป้ายกำกับ:
วิธีทำแผ่น Windows 7
|
1 ความคิดเห็น
วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วิธี Updates Windows 7
วิธี Updates Windows 7
การ Update Windows 7 ให้ทันสมัยอยู่เสมอเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากการอัปเดท จะทำให้ Windows ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดช่องโหว่งที่ทำให้ทั้ง ไวรัส สปายแวร์ ไม่สามารถเจาะเข้ามาถึงได้โดยง่าย การอัปเดท Windows จะต้องทำผ่านทางอินเตอร์เน็ต เท่านั้น ถึงจะได้ข้อมูลที่ทันสมัยที่สุด สำหรับ Windows 7 สามารถอัปเดทได้โดยผ่านเมนู Control Panel ในหัวข้อ System and Security
วิธี Updates Windows 7
1. คลิกปุ่ม Start
2. คลิกเลือกหัวข้อ Control Panel
3. คลิกเลือก System and Security
4. ในหัวข้อ Windows Update ให้คลิก Check for Updates
5. ให้คลิกเลือก updates
6. รอสักครู่โปรแกรมจะเริ่ม Update และติดตั้งให้จนเสร็จ
7. บางครั้งเราอาจจำเป็นต้องมีการ Restart Windows ด้วยเพื่อให้ไฟล์ที่อัปเดทสามารถทำงานได้
การ Update Windows 7 ให้ทันสมัยอยู่เสมอเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากการอัปเดท จะทำให้ Windows ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดช่องโหว่งที่ทำให้ทั้ง ไวรัส สปายแวร์ ไม่สามารถเจาะเข้ามาถึงได้โดยง่าย การอัปเดท Windows จะต้องทำผ่านทางอินเตอร์เน็ต เท่านั้น ถึงจะได้ข้อมูลที่ทันสมัยที่สุด สำหรับ Windows 7 สามารถอัปเดทได้โดยผ่านเมนู Control Panel ในหัวข้อ System and Security
วิธี Updates Windows 7
1. คลิกปุ่ม Start
2. คลิกเลือกหัวข้อ Control Panel
3. คลิกเลือก System and Security
4. ในหัวข้อ Windows Update ให้คลิก Check for Updates
5. ให้คลิกเลือก updates
6. รอสักครู่โปรแกรมจะเริ่ม Update และติดตั้งให้จนเสร็จ
7. บางครั้งเราอาจจำเป็นต้องมีการ Restart Windows ด้วยเพื่อให้ไฟล์ที่อัปเดทสามารถทำงานได้
ป้ายกำกับ:
วิธี Updates Windows 7
|
0
ความคิดเห็น
วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วิธีโอนย้ายไฟล์ใน Windows 7
วิธีโอนย้ายไฟล์ใน Windows 7
เครื่องมือใหม่ในการโอนย้ายข้อมูล
สำหรับผู้ใช้งาน Windows 7 โดยเฉพาะ เราสามารถโอนย้ายไฟล์ข้อมูลจากเครื่องคอมฯ ผ่านทาง สายเคเบิล, เน็ตเวิร์ค หรือ ทาง External ประเภท Flash Drive / Hard disk ได้ง่ายๆ เพียงใช้เครื่องมือใหม่ของ Windows 7 ที่ชื่อว่า Windows Easy Transfer
วิธีโอนย้ายไฟล์ใน Windows 7
1. คลิกปุ่ม Start
2. พิมพ์คำว่า "Trans" ในช่อง Search
3. คลิกเลือกหัวข้อ "Windows Easy Transfer"
เครื่องมือใหม่ในการโอนย้ายข้อมูล
สำหรับผู้ใช้งาน Windows 7 โดยเฉพาะ เราสามารถโอนย้ายไฟล์ข้อมูลจากเครื่องคอมฯ ผ่านทาง สายเคเบิล, เน็ตเวิร์ค หรือ ทาง External ประเภท Flash Drive / Hard disk ได้ง่ายๆ เพียงใช้เครื่องมือใหม่ของ Windows 7 ที่ชื่อว่า Windows Easy Transfer
วิธีโอนย้ายไฟล์ใน Windows 7
1. คลิกปุ่ม Start
2. พิมพ์คำว่า "Trans" ในช่อง Search
3. คลิกเลือกหัวข้อ "Windows Easy Transfer"
4. ให้คลิก Next
5. เลือกสื่อที่ใช้ในการโอนย้ายไฟล์
-Cable
-Network
-Flash Drive / USB Hard disk
6. คลิกเลือก
-This is my new computer? เลือกหัวข้อนี้ คุณจะต้องไป copy ไฟล์เก่ามาเก็บไว้ในเครื่องใหม่นี้
-This is my old computer? เลือกหัวข้อนี้ คุณจะต้อง สำรองข้อมูลในเครื่องนี้ก่อน
7. การเลือกในข้อข้างต้น จะมีผลในการทำงานในหัวข้อถัดไป
ทำตามขั้นตอนที่แสดงหน้าจอ จนกระทั่งเสร็จสิ้น..? ทิป ถ้าคุณต้องการโอนย้ายไฟล์จาก เครื่องคอมฯ เครื่องเก่า Windows Easy Transfer จะแนะนำคุณให้ transfer file จากเครื่องเก่ามายังเครื่องคอมฯ ใหม่??โดยจะมีการ copy โปรแกรม Easy Transfer ใส่ Flash Drive ไปใช้กับอีกเครื่องได้ด้วย..
ป้ายกำกับ:
วิธีโอนย้ายไฟล์ใน Windows 7
|
0
ความคิดเห็น
วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554
หา Driver ของ Windows 7 ไม่พบ
หา Driver ของ Windows 7 ไม่พบ
หา Driver ของ Windows 7 ไม่พบทำไงดี
เราพอมีวิธีให้ท่านแก้ไข
สำหรับอีกหลายๆ คนที่กำลังเตรียมความพร้อมในการอัพเกรดเครื่องคอมฯ ปัจจุบันให้เป็น Window 7 แต่กำลังตรวจสอบและมองหา Driver ของ Windows 7 อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่อาจยังหาไม่พบ พบฮาร์ดแวร์เก่าๆ อาจยังไม่รองรับ Windows 7 ทั้งหมด ปัญหานี้ มีคำตอบให้ครับ
วิธีง่ายๆ และสั้นๆ ในการแก้ไขปัญหา Driver ของ?Hardware ต่างๆ ไม่พบ นั่นคือ ใช้ Driver ของ Windows Vista แทน? ถูกครับ คุณอ่านไม่ผิด และผมก็เขียนไม่ผิดเหมือนกัน สาเหตุก็เพราะ สถาปัตยกรรฒของ Windows Vista และ Windows 7 มีรากฐานเดียวกัน ดังนั้น driver ส่วนใหญ่ที่ใช้งานได้กับ Windows Vista ก็สามารถใช้งานได้กับ Windows 7 ครับ (อาจไม่ครอบคลุม 100% ก็ตาม)?
อย่างนี้ ต้องไปทดสอบกันดูครับ
นอกจากนี้ คงต้องไปทดสอบกันก่อนการอัพเกรดว่า เครื่องคอมฯ ของเรา รองรับการใช้งาน Windows 7 หรือไม่ เพราะถ้า Spec ไม่ดีพอ ปัญหาที่พบก็คือ ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างน้อย แนะนำให้คุณมีหน่วยความจำหรือ Ram อย่างน้อย 2 GB ขึ้นไป
ทดสอบฮาร์ดแวร์ก่อนการอัพเกรด Windows 7 ได้ที่หัวข้อ??ตรวจสอบความพร้อมก่อนใช้งาน Windows 7
หา Driver ของ Windows 7 ไม่พบทำไงดี
เราพอมีวิธีให้ท่านแก้ไข
สำหรับอีกหลายๆ คนที่กำลังเตรียมความพร้อมในการอัพเกรดเครื่องคอมฯ ปัจจุบันให้เป็น Window 7 แต่กำลังตรวจสอบและมองหา Driver ของ Windows 7 อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่อาจยังหาไม่พบ พบฮาร์ดแวร์เก่าๆ อาจยังไม่รองรับ Windows 7 ทั้งหมด ปัญหานี้ มีคำตอบให้ครับ
วิธีง่ายๆ และสั้นๆ ในการแก้ไขปัญหา Driver ของ?Hardware ต่างๆ ไม่พบ นั่นคือ ใช้ Driver ของ Windows Vista แทน? ถูกครับ คุณอ่านไม่ผิด และผมก็เขียนไม่ผิดเหมือนกัน สาเหตุก็เพราะ สถาปัตยกรรฒของ Windows Vista และ Windows 7 มีรากฐานเดียวกัน ดังนั้น driver ส่วนใหญ่ที่ใช้งานได้กับ Windows Vista ก็สามารถใช้งานได้กับ Windows 7 ครับ (อาจไม่ครอบคลุม 100% ก็ตาม)?
อย่างนี้ ต้องไปทดสอบกันดูครับ
นอกจากนี้ คงต้องไปทดสอบกันก่อนการอัพเกรดว่า เครื่องคอมฯ ของเรา รองรับการใช้งาน Windows 7 หรือไม่ เพราะถ้า Spec ไม่ดีพอ ปัญหาที่พบก็คือ ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างน้อย แนะนำให้คุณมีหน่วยความจำหรือ Ram อย่างน้อย 2 GB ขึ้นไป
ทดสอบฮาร์ดแวร์ก่อนการอัพเกรด Windows 7 ได้ที่หัวข้อ??ตรวจสอบความพร้อมก่อนใช้งาน Windows 7
ป้ายกำกับ:
หา Driver ของ Windows 7 ไม่พบ
|
0
ความคิดเห็น
แก้ไข This copy of windows is not genuine ของ windows7
แก้ไข This copy of windows is not genuine ของ windows7
วิธีแก้ไข windows ที่ขึ้นว่า This copy of windows is not genuine คอมพิวเตอร์บางคน ยกคอมพิวเตอร์ไปให้ร้านคอมพิวเตอร์ลงให้หรือได้ซื้อwindows เถื่อนมาลงที่บ้านเอง แล้วทางร้านลืมปิดการ update windows หรือผู้อ่านทำการเปิด update windows เอง ทำให้ทาง Microsoft ส่ง patch มาตรวจสอบ windows ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม
แต่ถ้า windows ที่คุณใช้เป็นของปลอม มันก็จะขึ้นข้อความดังนี้ "This copy of Windows is not genuine. You may be a victim of software counterfeiting." แล้วถามว่ามีวิธีแก้ไหม??
เรามีวิธีแก้ไยครับ งั้นเรามาแก้ไขกันเลยครับ
***นี้เป็นแค่เป็นแค่การเอา This copy of Windows is not genuine ออกนะครับ ไม่ใช่การทำให้ Windowsเป็นของแท้
เริ่มทำในขั้นตอนที่ 4 เลยก็ได้ครับสำหรับการแก้ไข
วิธีการแก้ไข สำหรับ Windows XP เริ่มทำจากข้อ 1 ไปเลยนะครับ ส่วน Windows 7 เริ่มทำข้อ 4 ไปเลยครับ
1. ให้เราเลือกเข้า Safe mode (F8)
วิธีเข้า Safe mode ก็ให้กด F8 ตอนที่คอมพิวเตอร์เปิดขึ้นมาใหม่หรือหลังจากทำการ Restart คอมพิวเตอร์
2. เมื่อเข้ามาใน safe mode เรียบร้อยแล้ว ให้เราทำการกด Ctrl+Alt+Delete พร้อมกัน และให้ทำการ Kill Process ตัวที่ชื่อว่า wgatray.exe (ให้คลิกที่ชื่อ wgatray.exe แล้วกด End process) จากนั้นให้ทำการ Restart computer แล้วเข้า safe mode อีกครั้ง
3. ให้ทำการลบไฟล์ที่ชื่อว่า
Delete WgaTray.exe อยู่ใน c:\windowss\system32
Delete WgaTray.exe อยู่ใน c:\windows\system32\dllcache
4. จากนั้นให้เราไปที่ Start > > Run จากนั้นพิมพ์ " Regedit "
ต่อจากนั้นให้เลือก path ไปยัง HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\ Windows NT\CurrentVersion\Winlogon\Notify. และให้ทำการลบ Folder "WGALOGON" ทั้ง Folder เลยครับ
5. จากนั้นก็ทำการ restart computer ตามปกติครับ
ก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้วครับ
วิธีแก้ไข windows ที่ขึ้นว่า This copy of windows is not genuine คอมพิวเตอร์บางคน ยกคอมพิวเตอร์ไปให้ร้านคอมพิวเตอร์ลงให้หรือได้ซื้อwindows เถื่อนมาลงที่บ้านเอง แล้วทางร้านลืมปิดการ update windows หรือผู้อ่านทำการเปิด update windows เอง ทำให้ทาง Microsoft ส่ง patch มาตรวจสอบ windows ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม
แต่ถ้า windows ที่คุณใช้เป็นของปลอม มันก็จะขึ้นข้อความดังนี้ "This copy of Windows is not genuine. You may be a victim of software counterfeiting." แล้วถามว่ามีวิธีแก้ไหม??
เรามีวิธีแก้ไยครับ งั้นเรามาแก้ไขกันเลยครับ
***นี้เป็นแค่เป็นแค่การเอา This copy of Windows is not genuine ออกนะครับ ไม่ใช่การทำให้ Windowsเป็นของแท้
เริ่มทำในขั้นตอนที่ 4 เลยก็ได้ครับสำหรับการแก้ไข
วิธีการแก้ไข สำหรับ Windows XP เริ่มทำจากข้อ 1 ไปเลยนะครับ ส่วน Windows 7 เริ่มทำข้อ 4 ไปเลยครับ
1. ให้เราเลือกเข้า Safe mode (F8)
วิธีเข้า Safe mode ก็ให้กด F8 ตอนที่คอมพิวเตอร์เปิดขึ้นมาใหม่หรือหลังจากทำการ Restart คอมพิวเตอร์
2. เมื่อเข้ามาใน safe mode เรียบร้อยแล้ว ให้เราทำการกด Ctrl+Alt+Delete พร้อมกัน และให้ทำการ Kill Process ตัวที่ชื่อว่า wgatray.exe (ให้คลิกที่ชื่อ wgatray.exe แล้วกด End process) จากนั้นให้ทำการ Restart computer แล้วเข้า safe mode อีกครั้ง
3. ให้ทำการลบไฟล์ที่ชื่อว่า
Delete WgaTray.exe อยู่ใน c:\windowss\system32
Delete WgaTray.exe อยู่ใน c:\windows\system32\dllcache
4. จากนั้นให้เราไปที่ Start > > Run จากนั้นพิมพ์ " Regedit "
ต่อจากนั้นให้เลือก path ไปยัง HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\ Windows NT\CurrentVersion\Winlogon\Notify. และให้ทำการลบ Folder "WGALOGON" ทั้ง Folder เลยครับ
5. จากนั้นก็ทำการ restart computer ตามปกติครับ
ก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้วครับ
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
แบ่งออกเป็น 3 องค์ประกอบด้วยกัน คือ
1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
ฮาร์ดแวร์ (Hardware) คือ ตัวเครื่อง และอุปกรณืต่างๆของคอมพิวเตอร์ทุกๆชิ้น ซึ่งเราสามารถจับต้องได้ เช่น ซีพียู แรม เมนบอร์ด ฮาร์ดดิสก์ การ์ดจอ พาวเวอร์ซัพพลาย (แหล่งจ่ายไฟ) จอภาพ เคส คีบอร์ด เมาส์ ฯลฯ
2. ซอฟต์แวร์ (Software)
ซอฟต์แวร์ (Software) คือ ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นซอฟต์แวร์ เพราะเป็นลำดับขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทำงานแตกต่างกันได้มากมายด้วยซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน ซอฟต์แวร์จึงหมายรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกประเภทที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้
3. พีเพิลแวร์์ (peopleware)
พีเพิลแวร์์ (peopleware) คือ บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ระดับ ดังนี้
1. ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน
2. นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู้เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน
3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้
4. ผู้ใช้ (User) คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป
ป้ายกำกับ:
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
|
0
ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วิธีแชร์ไฟล์ระหว่าง Windows 7 กับ Windows XP
วิธีแชร์ไฟล์ระหว่าง Windows 7 กับ Windows XP
หลายคนที่ใช้ Windows 7 กับ Windows Xp จะมีปัญหาการ Setup ในการแชร์ข้อมูลกันภายในวงแลน ปัญหาคือ Setup ไม่เป็นนั้นเองหรือว่าSetup แล้วปรากฎว่า Accessไม่ได้ แต่วันนี้ผมจะบอกวิธีการ Setup เป็นทีละ Step by Step รับรองว่าคุณสามารถทำเป็นเองได้แน่ๆ ครับ ง่ายๆครับยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากเสียอีก ผมรู้ว่าคุณกำลังประสบกับปัญหาแชร์ไฟล์บน windows 7 ไม่ได้เนื่องจากเป็นมือใหม่หัดใช้ windows 7 หรือว่าทำแล้วยังไงก็ทำไม่ได้สักทีเลยต้องมาทำการ Search ใน Google แต่วันนี้เมื่อคุณได้ทำการอ่านบทความนี้เสร็จคุณก็สามารถเป็นมือโปรทันเลยของ windows 7
บทความนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มใช้ Windows 7 ที่มีปัญหากับการแชร์ไฟล์บน windows 7
อันนี้ผมสมมุติขึ้นมาเองน่ะครับ
Windows 7 : Ip adddress 192.168.100.1
Windows Xp : Ip address 192.168.100.2
Subnet mark 255.255.255.0 ทั้งคู่นะครับ
คอมพิวเตอร์ที่บ้านของคุณอาจจะได้ IP มาจาก Router อัตโนมัติมาก็ได้นะครับ
วิธีการดู Ip ก็ Start > run > cmd > จากนั้นพิมพ์ ipconfig /all
มาดูกัน
1. ที่เครื่อง Windows 7 ผมได้ไปที่ Start - > Run -> cmd
จากนั้นทำการ Ping ไปยัง Windows Xp ที่ Ip address 192.168.100.2 ปรากฎว่าpingได้
**แต่้ถ้่่า Ping ไม่ได้อาจจะติด Firewall ที่ Windows xp เองหรือว่า Antivirus บนเครื่อง Windows xp นะครับ
2.ที่เครื่อง Windows XP ผมได้ Ping ไปยัง Ip address 192.168.100.1 (windows 7)
ปรากฎว่า Time out
สรุป windows 7 ping ไปยัง Windows Xp ได้ แต่ Windows Xp ping ไปยัง Windows 7 ไม่ได้เพราะว่า Service บางตัวของ Windows 7 บางตัวได้ปิดอยู่ครับ
ขั้นตอนลงมือทำจริงในการแชร์ไฟล์
3. ที่ Windows 7
Start > Control Panel > เลือก Choose homegroup and sharing options
หัวข้อ File and Printer sharing ให้เป็น Turn on
6. จากนั้นไปที่ เครื่อง windows xp แล้วลอง Ping ไปมาที่ Windows 7 ปรากฎว่า Ping ได้แล้วครับ เนื่องจากเราไปเปิด turn on file and printer sharing เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
* ถ้ายัง Ping ไม่ได้อาจจะติด Antivirus ของ Windows 7 ครับ
จากนั้น กด Ok เพื่อ Save
Update 4/2/2011 แต่สำหรับคนที่อยากแชร์ไฟล์ของ windows 7 ทั้ง Drive ให้ทำตามนี้ครับ
ให้ไปที่ Drive ที่เราต้องการ Share file จากนั้นให้คลิกขวาที่ Drive เช่น Drive D จากนั้นเลือก Propreties
สังเกตุได้ว่าตรง Share มันกดไม่ได้ แต่เราจะมากด Advanced Sharing แทนครับ
จากนั้นให้เราติ๊กถูก Share this folder จากนั้นใส่ชื่อ Share name : ใส่ชื่อที่คุณต้องการลงไป ในที่นี้ผมใส่ไปว่า share - ITITHAI -Drive D
เมื่อตั้งชื่อDrive ที่จะแชร์เสร็จแล้วให้เลือกคลิกที่ Permission และกำหนดสิทธิ์ของ คนๆนั้นที่สามารถเข้ามาใน Folder นี้ได้ ในที่นี้ผมให้ ทุกๆคน (Everyone) สามารถทำได้ทุกอย่าง ผมก็เลือก Full Control ไปเลยครับ (เพราะกรณีนี้ผมอยู่ที่บ้าน )
หลังจากนั้นจะเห็นได้ว่า จะมี Network Path ขึ้นมาแล้ว มันจะปรากฎตามนี้ครับ
\\ชื่อคอมของคุณ\ชื่อDrive ที่แชร์
จากนั้นผมลองทดสอบว่า Drive คอมพิวเตอร์ผมได้แชร์ Drive D ผมแล้วใช่ไหม โดยให้ไปที่ run จากนั้นพิมพ์ \\127.0.0.1
ก็จะเห็น Drive ทั้งหมดที่ผมได้ทำการแชร์ครับ
หรือจะใช้ Command ในการดูก็ได้ครับ ไปที่ Start > run > cmd > net share
ก็จะเห็น Drive ที่เราททำการแชร์ไว้ครับ
Drive C$ และ Drive D$ และ IPC$ และ ADMIN $ จะเป็น Drive Default ที่ windows ทำการแชร์ไว้ให้ครับแต่ที่ไม่เห็นก็เพราะว่าใส่ $ ไว้ครับ มันเป็นการ Hide ไว้ครับ
7. หลังจากเรากด Share ตรงหมายเลข 7 ก็ให้ให้เราพิมพ์ Everyone ลงไปแล้วกด Addตามภาพครับ
จากนั้นให้เลือกตรงลูกศรสีฟ้าครับ ว่าจะปรับให้ได้แค่ อ่านได้อย่างเดียว หรือ ทั้งอ่านและเขียน ลงได้ด้วยครับ เมื่อปรับแล้วให้กด Shareครับ
8. จากนั้นมาืที่เครื่อง Windows Xp และผม ได้เปิด My Computer ขึ้นมา
และผมได้พิมพ์ Ip address : \\192.168.100.1(Windows 7) > Enter (หรือชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ฺของ Windows 7 เครื่องนั้น)
ผมก็จะเห็น Folder : Share windows 7 ที่ผมได้แชร์มาจาก Windows 7 แล้วครับ
ในทางกลับกัน ถ้าคุณจะดึงไฟล์จาก Windows XP มายัง Windows 7
ก็แค่ สร้างแชร์โฟล์เดอร์ที่ Windows XP จากนั้นเปิดแชร์เอาไว้ แล้วค่อย Browse จาก Windows 7ตามภาพ
ผมอยู่ที่เครื่อง Windows 7 เปิด my computer ขึ้นมาจากนั้นพิมม์ \\192.168.100.2 (windows Xp) หรือชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ฺของ Windows XP เครื่องนั้น จากนั้นก็จะปรากฎ Folder ที่ผมแชร์เอาไว้ใน Windows Xp ครับ
เป็นไงกันมั้งครับ ลองทำตามวิธีที่ผมได้เขียนเอาไว้สำหรับการ แชร์ไฟล์Windows 7 ผมคิดว่าทุกคนน่าจะแชร์ไฟล์บน Windows 7 ของเราได้กันหมดแล้วนะครับ เพราะบทความนี้ผมเขียนไว้ละเอียดมากสำหรับมือใหม่กับ Windows 7 เมื่อคุณทำเสร็จแล้วคุณก็จะรู้ว่าการแชร์ไฟล์ของ Windows 7 นั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยครับ เพียงแต่ทาง Windows 7 นั้นได้ออกแบบว่าเพื่อ Security ที่สูงขึ้น
ถ้าคุณทำแล้วยังไม่สามารถเปิดแชร์ได้ ให้ลองตรวจสอบที่ Antivirus ดูครับว่าได้ทำการ Block ไว้อยู่หรือเปล่าในส่วนนี้ แต่ผมว่าถ้าคุณทำแค่นี้ คุณก็สามารถแชร์ไฟล์บน windows 7 ได้แล้วละครับ
หลายคนที่ใช้ Windows 7 กับ Windows Xp จะมีปัญหาการ Setup ในการแชร์ข้อมูลกันภายในวงแลน ปัญหาคือ Setup ไม่เป็นนั้นเองหรือว่าSetup แล้วปรากฎว่า Accessไม่ได้ แต่วันนี้ผมจะบอกวิธีการ Setup เป็นทีละ Step by Step รับรองว่าคุณสามารถทำเป็นเองได้แน่ๆ ครับ ง่ายๆครับยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากเสียอีก ผมรู้ว่าคุณกำลังประสบกับปัญหาแชร์ไฟล์บน windows 7 ไม่ได้เนื่องจากเป็นมือใหม่หัดใช้ windows 7 หรือว่าทำแล้วยังไงก็ทำไม่ได้สักทีเลยต้องมาทำการ Search ใน Google แต่วันนี้เมื่อคุณได้ทำการอ่านบทความนี้เสร็จคุณก็สามารถเป็นมือโปรทันเลยของ windows 7
บทความนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มใช้ Windows 7 ที่มีปัญหากับการแชร์ไฟล์บน windows 7
อันนี้ผมสมมุติขึ้นมาเองน่ะครับ
Windows 7 : Ip adddress 192.168.100.1
Windows Xp : Ip address 192.168.100.2
Subnet mark 255.255.255.0 ทั้งคู่นะครับ
คอมพิวเตอร์ที่บ้านของคุณอาจจะได้ IP มาจาก Router อัตโนมัติมาก็ได้นะครับ
วิธีการดู Ip ก็ Start > run > cmd > จากนั้นพิมพ์ ipconfig /all
มาดูกัน
1. ที่เครื่อง Windows 7 ผมได้ไปที่ Start - > Run -> cmd
จากนั้นทำการ Ping ไปยัง Windows Xp ที่ Ip address 192.168.100.2 ปรากฎว่าpingได้
**แต่้ถ้่่า Ping ไม่ได้อาจจะติด Firewall ที่ Windows xp เองหรือว่า Antivirus บนเครื่อง Windows xp นะครับ
2.ที่เครื่อง Windows XP ผมได้ Ping ไปยัง Ip address 192.168.100.1 (windows 7)
ปรากฎว่า Time out
สรุป windows 7 ping ไปยัง Windows Xp ได้ แต่ Windows Xp ping ไปยัง Windows 7 ไม่ได้เพราะว่า Service บางตัวของ Windows 7 บางตัวได้ปิดอยู่ครับ
ขั้นตอนลงมือทำจริงในการแชร์ไฟล์
3. ที่ Windows 7
Start > Control Panel > เลือก Choose homegroup and sharing options
4. ขั้นตอนนี้ให้เลือก Change advaced sharing setting
5. จากนั้นให้เลือก Public (Current profile)
และในส่วนของ Password protected sharing ก็ให้ปรับเป็น Turn Off ครับ และทำการกด Save ในการปิดนี้เป็นการปิด Password ในการแชร์ครับ ซึ่งตัว Defualt ของ Windows 7 จะมี Security เพื่อป้องกันการเข้ามา Access ในไฟล์หรือ Folder นั้นครับ
6. จากนั้นไปที่ เครื่อง windows xp แล้วลอง Ping ไปมาที่ Windows 7 ปรากฎว่า Ping ได้แล้วครับ เนื่องจากเราไปเปิด turn on file and printer sharing เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
* ถ้ายัง Ping ไม่ได้อาจจะติด Antivirus ของ Windows 7 ครับ
7. จากนั้นมาที่ Windows 7 เพื่อทำการ Share Folder ในที่นี้
ผมขอสร้าง Folder Name : Share windows 7
เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ผมขออธิบายตามหมายเลขในรูปนะครับ
1. ให้คลิกขวา ที่ Folder Share windows7 แล้วเลือก Properties
2. ให้เลือก Tab Sharing
3. เลือก Advanced Setting
4. ให้ติ๊ก (√) Share this folder จากนั้นให้ใส่ Share name : ผมขอใส่ชื่อว่า share windows7
5. กด Permissions เพื่อกำหนดสิทธิ์
6. ผมให้สิทธิ์ Everyone เป็น Full Control นะครับ
จากนั้น กด Ok เพื่อ Save
Update 4/2/2011 แต่สำหรับคนที่อยากแชร์ไฟล์ของ windows 7 ทั้ง Drive ให้ทำตามนี้ครับ
ให้ไปที่ Drive ที่เราต้องการ Share file จากนั้นให้คลิกขวาที่ Drive เช่น Drive D จากนั้นเลือก Propreties
สังเกตุได้ว่าตรง Share มันกดไม่ได้ แต่เราจะมากด Advanced Sharing แทนครับ
จากนั้นให้เราติ๊กถูก Share this folder จากนั้นใส่ชื่อ Share name : ใส่ชื่อที่คุณต้องการลงไป ในที่นี้ผมใส่ไปว่า share - ITITHAI -Drive D
เมื่อตั้งชื่อDrive ที่จะแชร์เสร็จแล้วให้เลือกคลิกที่ Permission และกำหนดสิทธิ์ของ คนๆนั้นที่สามารถเข้ามาใน Folder นี้ได้ ในที่นี้ผมให้ ทุกๆคน (Everyone) สามารถทำได้ทุกอย่าง ผมก็เลือก Full Control ไปเลยครับ (เพราะกรณีนี้ผมอยู่ที่บ้าน )
หลังจากนั้นจะเห็นได้ว่า จะมี Network Path ขึ้นมาแล้ว มันจะปรากฎตามนี้ครับ
\\ชื่อคอมของคุณ\ชื่อDrive ที่แชร์
จากนั้นผมลองทดสอบว่า Drive คอมพิวเตอร์ผมได้แชร์ Drive D ผมแล้วใช่ไหม โดยให้ไปที่ run จากนั้นพิมพ์ \\127.0.0.1
ก็จะเห็น Drive ทั้งหมดที่ผมได้ทำการแชร์ครับ
หรือจะใช้ Command ในการดูก็ได้ครับ ไปที่ Start > run > cmd > net share
ก็จะเห็น Drive ที่เราททำการแชร์ไว้ครับ
Drive C$ และ Drive D$ และ IPC$ และ ADMIN $ จะเป็น Drive Default ที่ windows ทำการแชร์ไว้ให้ครับแต่ที่ไม่เห็นก็เพราะว่าใส่ $ ไว้ครับ มันเป็นการ Hide ไว้ครับ
7. หลังจากเรากด Share ตรงหมายเลข 7 ก็ให้ให้เราพิมพ์ Everyone ลงไปแล้วกด Addตามภาพครับ
จากนั้นให้เลือกตรงลูกศรสีฟ้าครับ ว่าจะปรับให้ได้แค่ อ่านได้อย่างเดียว หรือ ทั้งอ่านและเขียน ลงได้ด้วยครับ เมื่อปรับแล้วให้กด Shareครับ
8. จากนั้นมาืที่เครื่อง Windows Xp และผม ได้เปิด My Computer ขึ้นมา
และผมได้พิมพ์ Ip address : \\192.168.100.1(Windows 7) > Enter (หรือชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ฺของ Windows 7 เครื่องนั้น)
ผมก็จะเห็น Folder : Share windows 7 ที่ผมได้แชร์มาจาก Windows 7 แล้วครับ
ในทางกลับกัน ถ้าคุณจะดึงไฟล์จาก Windows XP มายัง Windows 7
ก็แค่ สร้างแชร์โฟล์เดอร์ที่ Windows XP จากนั้นเปิดแชร์เอาไว้ แล้วค่อย Browse จาก Windows 7ตามภาพ
ผมอยู่ที่เครื่อง Windows 7 เปิด my computer ขึ้นมาจากนั้นพิมม์ \\192.168.100.2 (windows Xp) หรือชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ฺของ Windows XP เครื่องนั้น จากนั้นก็จะปรากฎ Folder ที่ผมแชร์เอาไว้ใน Windows Xp ครับ
เป็นไงกันมั้งครับ ลองทำตามวิธีที่ผมได้เขียนเอาไว้สำหรับการ แชร์ไฟล์Windows 7 ผมคิดว่าทุกคนน่าจะแชร์ไฟล์บน Windows 7 ของเราได้กันหมดแล้วนะครับ เพราะบทความนี้ผมเขียนไว้ละเอียดมากสำหรับมือใหม่กับ Windows 7 เมื่อคุณทำเสร็จแล้วคุณก็จะรู้ว่าการแชร์ไฟล์ของ Windows 7 นั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยครับ เพียงแต่ทาง Windows 7 นั้นได้ออกแบบว่าเพื่อ Security ที่สูงขึ้น
ถ้าคุณทำแล้วยังไม่สามารถเปิดแชร์ได้ ให้ลองตรวจสอบที่ Antivirus ดูครับว่าได้ทำการ Block ไว้อยู่หรือเปล่าในส่วนนี้ แต่ผมว่าถ้าคุณทำแค่นี้ คุณก็สามารถแชร์ไฟล์บน windows 7 ได้แล้วละครับ
แก้ปัญหา Windows 7 ติดตั้งโปรแกรมเวอร์ชั่น XP ไม่ได้
แก้ปัญหา Windows 7 ติดตั้งโปรแกรมเวอร์ชั่น XP ไม่ได้
หากคุณต้องการติดตั้งโปรแกรมที่เคยใช้งานบน Windows XP ได้เป็นอย่างดี แต่อาจปรากฎว่า Windows 7 ยังไม่รองรับการติดตั้งใช้งาน โดยแจ้ง error ให้เห็นว่า ไม่สามารถติดตั้งได้นั้น ปัญหานี้ แก้ไขได้ด้วยคุณสมบัติ Compatibility Mode ซึ่งตัวระบบปฎิบัติการ WIndows 7 จะปรับเปลี่ยนค่าต่างๆ ให้สอดคล้องกับตัวโปรแกรมนั้นๆ เสมือนอยู่ในสภาพแวดล้อมของ Windows XP โดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างในการติดตั้งโปรแกรมซึ่งไม่สามารถติดตั้งแบบปกติได้บน Windows 7 แต่ผมเคยใช้งานได้บน Windows XP ดังนั้ จึงต้องแก้ไขโดยการติดตั้งผ่านโหมด Compatibility ดังนี้
วิธีแก้ปัญหา Windows 7 ติดตั้งโปรแกรมเวอร์ชั่น XP ไม่ได้ ดังนี้
1. คลิกขวาบนไอคอนโปรแกรมที่ต้องการติดตั้ง ส่วนมากจะเป็นไฟล์ .exe เช่น ไฟล์ setup.exe หรือ install.exe เป็นต้น
2. เลือกคำสั่ง Troubleshooot Compatibility
3. คลิกเลือก Troubleshooot Program
4. คลิกปุ่ม Start the program ... จากนั้น โปรแกรมจะยอมให้ทำการติดตั้งได้
5. คลิกเลือก Yes, save these settings for this program
6. คลิกปุ่ม Close ... เป็นอันเสร็จพิธี
หากคุณต้องการติดตั้งโปรแกรมที่เคยใช้งานบน Windows XP ได้เป็นอย่างดี แต่อาจปรากฎว่า Windows 7 ยังไม่รองรับการติดตั้งใช้งาน โดยแจ้ง error ให้เห็นว่า ไม่สามารถติดตั้งได้นั้น ปัญหานี้ แก้ไขได้ด้วยคุณสมบัติ Compatibility Mode ซึ่งตัวระบบปฎิบัติการ WIndows 7 จะปรับเปลี่ยนค่าต่างๆ ให้สอดคล้องกับตัวโปรแกรมนั้นๆ เสมือนอยู่ในสภาพแวดล้อมของ Windows XP โดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างในการติดตั้งโปรแกรมซึ่งไม่สามารถติดตั้งแบบปกติได้บน Windows 7 แต่ผมเคยใช้งานได้บน Windows XP ดังนั้ จึงต้องแก้ไขโดยการติดตั้งผ่านโหมด Compatibility ดังนี้
วิธีแก้ปัญหา Windows 7 ติดตั้งโปรแกรมเวอร์ชั่น XP ไม่ได้ ดังนี้
1. คลิกขวาบนไอคอนโปรแกรมที่ต้องการติดตั้ง ส่วนมากจะเป็นไฟล์ .exe เช่น ไฟล์ setup.exe หรือ install.exe เป็นต้น
2. เลือกคำสั่ง Troubleshooot Compatibility
3. คลิกเลือก Troubleshooot Program
4. คลิกปุ่ม Start the program ... จากนั้น โปรแกรมจะยอมให้ทำการติดตั้งได้
5. คลิกเลือก Yes, save these settings for this program
6. คลิกปุ่ม Close ... เป็นอันเสร็จพิธี
วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ปัญหาบูตขึ้นแต่เข้าวินโดว์ไม่ได้
ปัญหาบูตขึ้นแต่เข้าวินโดว์ไม่ได้
เครื่องบูตขึ้นแต่ไม่สามารถเข้าวินโดวส์ได้
กรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ผ่านขั้นตอนการ POST แล้ว แต่กลับมาค้างที่หน้าจอแสดงโลโก้วินโดวส์ทำให้ไม่สามารถบูตเข้าวินโดวส์ได้ เลย บางครั้งก็ยังไม่แสดงโลโก้ของวินโดวส์แต่กลับมีข้อความแจ้งขึ้นมาว่า “Missing Operation System”
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาของช่าง คอมพิวเตอร์ก็คือ ให้สอบถามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ก่อน ว่าได้มีการลบไฟล์ระบบบางตัวออกไปหรือเปล่า ส่วนใหญ่ปัญหานี้มันเกิดจากไฟล์ระบบ COMMAND.COM เสียหายหรือถูกลบทิ้งไปเนื่องจากว่าไฟล์
COMMAND.COM เป็นไฟล์ที่มีหน้าที่เก็บคำสั่งภายในของระบบดอสเอาไว้ เช่น TYPE, COPY, DIR, DEL นอกจากนี้ก็ยังทำหน้าที่ ติดต่อและแปลคำสั่งของผู้ใช้ผ่านคีย์บอร์ด และนำคำสั่งนั้นไปปฏิบัติงาน ซึ่งนับว่าไฟล์ COMMAND.COM นั้นมีความสำคัญต่อระบบปฏิบัติการที่ยังต้องอิงกับระบบดอสอยู่มาก
วิธี แก้ไขก็คือ ให้บูตเครื่องด้วยแผ่น Startup Disk จากนั้นพิมพ์คำสั่ง SYS C: ซึ่งเป็นคำสั่ง ก๊อปปี้ไฟล์ระบบลงไปในไดรฟ์ C: โดยที่ไฟล์ระบบนั้นจะมีไฟล์ COMMAND.COM รวมอยู่ด้วย จากนั้นให้บูตเครื่องขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้จะพบว่าสามารถบูตเข้าวินโดวส์ได้ แล้ว
เครื่องบูตขึ้นแต่ไม่สามารถเข้าวินโดวส์ได้
กรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ผ่านขั้นตอนการ POST แล้ว แต่กลับมาค้างที่หน้าจอแสดงโลโก้วินโดวส์ทำให้ไม่สามารถบูตเข้าวินโดวส์ได้ เลย บางครั้งก็ยังไม่แสดงโลโก้ของวินโดวส์แต่กลับมีข้อความแจ้งขึ้นมาว่า “Missing Operation System”
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาของช่าง คอมพิวเตอร์ก็คือ ให้สอบถามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ก่อน ว่าได้มีการลบไฟล์ระบบบางตัวออกไปหรือเปล่า ส่วนใหญ่ปัญหานี้มันเกิดจากไฟล์ระบบ COMMAND.COM เสียหายหรือถูกลบทิ้งไปเนื่องจากว่าไฟล์
COMMAND.COM เป็นไฟล์ที่มีหน้าที่เก็บคำสั่งภายในของระบบดอสเอาไว้ เช่น TYPE, COPY, DIR, DEL นอกจากนี้ก็ยังทำหน้าที่ ติดต่อและแปลคำสั่งของผู้ใช้ผ่านคีย์บอร์ด และนำคำสั่งนั้นไปปฏิบัติงาน ซึ่งนับว่าไฟล์ COMMAND.COM นั้นมีความสำคัญต่อระบบปฏิบัติการที่ยังต้องอิงกับระบบดอสอยู่มาก
วิธี แก้ไขก็คือ ให้บูตเครื่องด้วยแผ่น Startup Disk จากนั้นพิมพ์คำสั่ง SYS C: ซึ่งเป็นคำสั่ง ก๊อปปี้ไฟล์ระบบลงไปในไดรฟ์ C: โดยที่ไฟล์ระบบนั้นจะมีไฟล์ COMMAND.COM รวมอยู่ด้วย จากนั้นให้บูตเครื่องขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้จะพบว่าสามารถบูตเข้าวินโดวส์ได้ แล้ว
ป้ายกำกับ:
ปัญหาบูตขึ้นแต่เข้าวินโดว์ไม่ได้
|
0
ความคิดเห็น
วิธีแก้ปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น
วิธีแก้ปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น
ผมเคยเจอกับปัญหาวินโดว์บูตไม่ขึ้นอยู่หลายเครื่อง แล้วปัญหาที่เจอส่วนใหญ่เกิดจาก ไฟล์สำหรับบูตระบบ เราหายสังเกตุได้จาก เมื่อเปิดเครื่องแล้ว สักพักเครื่องจะฟ้องว่า
NTLDR Missing
Please Press Ctrl+Alt+Del To Restart
วิธีแก้ปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น
ประมาณนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้าเจอปัญหาวิธีแก้ปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น นี้ก็จะใช้วิธีลงวินโดว์ใหม่ แต่ช่วงหลังได้รู้ว่ามีวิธีที่แก้ไขโดยที่ไม่ต้องลงวินโดว์ใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้ลองสักที มีบางครั้งที่ลองแล้วแต่ก็ยังไม่สำเร็จ ก็เลยยังทำไม่ได้สักที แต่เมื่อเจอปัญหานี้บ่อยขึ้นก็เลย ทดลองอย่างจริง ๆ จัง ๆ สักที ก็เป็นวิธีที่ทำให้ ย่นเวลาในการซ่อมขึ้นมาก ถ้าหากต้องลงวินโดว์ใหม่ พร้อมลงโปรแกรมครั้งนึงก็จะกินเวลาไป อย่างต่ำครึ่งวันเลย แต่สำหรับวิธีนี้ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง นิด ๆ ก็เปิดใช้งานได้เป็นปกติ
วิธีการแก้ไขปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น
เรามาเริ่มกันเลยครับ
1. ใช้แผ่นบูตของวินโดว์บูต
2. กด R เพื่อเข้าสู่ Recovery Console
3. เลือก Drive โดยใส่ตัวเลขที่ต้องการ
4. พิมพ์คำสั่ง bootcfg /rebuild
5. copy d:i386ntldr c:
6. copy d:i386ntdetect.com c:
7. reboot เครื่อง เอาแผ่นวินโดว์ออก จะสามารถเข้า วินโดว์ได้ตามปกติ
เพียงเท่านี้ระบบก็จะกลับมาทำงานได้อีกครั้งครับ
ผมเคยเจอกับปัญหาวินโดว์บูตไม่ขึ้นอยู่หลายเครื่อง แล้วปัญหาที่เจอส่วนใหญ่เกิดจาก ไฟล์สำหรับบูตระบบ เราหายสังเกตุได้จาก เมื่อเปิดเครื่องแล้ว สักพักเครื่องจะฟ้องว่า
NTLDR Missing
Please Press Ctrl+Alt+Del To Restart
วิธีแก้ปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น
ประมาณนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้าเจอปัญหาวิธีแก้ปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น นี้ก็จะใช้วิธีลงวินโดว์ใหม่ แต่ช่วงหลังได้รู้ว่ามีวิธีที่แก้ไขโดยที่ไม่ต้องลงวินโดว์ใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้ลองสักที มีบางครั้งที่ลองแล้วแต่ก็ยังไม่สำเร็จ ก็เลยยังทำไม่ได้สักที แต่เมื่อเจอปัญหานี้บ่อยขึ้นก็เลย ทดลองอย่างจริง ๆ จัง ๆ สักที ก็เป็นวิธีที่ทำให้ ย่นเวลาในการซ่อมขึ้นมาก ถ้าหากต้องลงวินโดว์ใหม่ พร้อมลงโปรแกรมครั้งนึงก็จะกินเวลาไป อย่างต่ำครึ่งวันเลย แต่สำหรับวิธีนี้ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง นิด ๆ ก็เปิดใช้งานได้เป็นปกติ
วิธีการแก้ไขปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น
เรามาเริ่มกันเลยครับ
1. ใช้แผ่นบูตของวินโดว์บูต
2. กด R เพื่อเข้าสู่ Recovery Console
3. เลือก Drive โดยใส่ตัวเลขที่ต้องการ
4. พิมพ์คำสั่ง bootcfg /rebuild
5. copy d:i386ntldr c:
6. copy d:i386ntdetect.com c:
7. reboot เครื่อง เอาแผ่นวินโดว์ออก จะสามารถเข้า วินโดว์ได้ตามปกติ
เพียงเท่านี้ระบบก็จะกลับมาทำงานได้อีกครั้งครับ
ป้ายกำกับ:
วิธีแก้ปัญหา วินโดว์บูตไม่ขึ้น
|
0
ความคิดเห็น
IDM 6.07 Build 8
Internet Download Manager 6.07 Build 8
b8 Y! w1 d" V" e6 G& ?
crack IDM 6.07 Build 8
ไม่มีวันหมดอายุครับ ใส่ Patch แนบไปให้แล้วครับ
2 Z3 ]( `$ B; ~% r0 P8 k, u
วิธี crack กด ลงโปรแกรม) i8 u: R1 n. n. ` [6 s
เปิดโปรแกรม' }0 e# T, j" [, Q" W# f) A* @, L7 Z
กด Patch server Check
ปิดโปรแกรม แล้วเปิดใหม่ กด generate ใน patch
copy ไปใส่ช่องลงทะเบียนของโปรแกรม 2 h/ _/ S
ดาวน์โหลด: http://www.mediafire.com/?mv0vs86dbal8l29
b8 Y! w1 d" V" e6 G& ?
crack IDM 6.07 Build 8
ไม่มีวันหมดอายุครับ ใส่ Patch แนบไปให้แล้วครับ
2 Z3 ]( `$ B; ~% r0 P8 k, u
วิธี crack กด ลงโปรแกรม) i8 u: R1 n. n. ` [6 s
เปิดโปรแกรม' }0 e# T, j" [, Q" W# f) A* @, L7 Z
กด Patch server Check
ปิดโปรแกรม แล้วเปิดใหม่ กด generate ใน patch
copy ไปใส่ช่องลงทะเบียนของโปรแกรม 2 h/ _/ S
ดาวน์โหลด: http://www.mediafire.com/?mv0vs86dbal8l29
ป้ายกำกับ:
IDM 6.07 Build 8
|
0
ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ลงวินโดว์ด้วย usb
ลงวินโดว์ด้วย usb
ลง Windows ด้วย USB Flash Drive
สิ่งที่เราต้องมีคือ
1. USB Flash Drive ขนาดความจุอย่างน้อย 1G ขึ้นไปครับ
2. แผ่น windows ตัวโปรดของเรา
3. โปรแกรมมสำหรับการสร้าง Boot Tractor เอาไว้ให้เครื้องของเรา boot จาก Flash Drive ได้
คือโปรแกรม USB_MultiBoot_9.zip
1. USB Flash Drive ขนาดความจุอย่างน้อย 1G ขึ้นไปครับ
2. แผ่น windows ตัวโปรดของเรา
3. โปรแกรมมสำหรับการสร้าง Boot Tractor เอาไว้ให้เครื้องของเรา boot จาก Flash Drive ได้
คือโปรแกรม USB_MultiBoot_9.zip
เมื่อโหลดมาเสร็จให้ทำการแตกไฟล์
ก็จะ ได้ Folder ชื่อ USB_MultiBoot_9 หยุดไว้ก่อน เรามา Copy แผ่น Windows ที่เราจะ ใช่ วิธี Copy แผ่น ขออธิบายนึดครับเดียวบ้างคนคิดมาก ใส่แผ่นในช่อง CD&DVD ของเรา เปิดแผ่นขึ้นมา เลือกไฟร์ข้างในทั้งหมด เลือกคำสั้ง Copy เอาไปว่างไว้ใน Folder ที่เราสร้างไว้ ตั้งชื่อ Folder ว่า XP ครับ อย่าไปตั้งอย่างอีนล่ะครับเดียวจะมีปัญหาแบบผม Copy แผ่น Windows เสร็จมาที่โปรแกรม ที่เราโหลดไว้ เข้าไปในโปรแกรมครับ ในโฟลเดอร์ USB Multiboot Double คลิกไฟร์ USB_MultiBoot_9.cmd
ตามรูปครับ
โปรแกรมมันก็จะเปิดขึ้นมาครับเมือนในรูปครับ
กด Enter ผ่านไปได้เลย
กด H แล้ว Enter
หน้าตาของโปรแกรม ของ HP Format Tool ครับ Device เลือกชื่อเป้น ยี่ห้อFlash Drive ของเราอย่างในรูปครับ ตรงนี้เลือกรูปแบบไฟล์ที่จะ Format กับ ตั้ง File system อันนี้ผมเลือกเป็น FAT32 ครับ ใช้ได้ครอบคลุมดีตรงช่อง Volume label ให้ตั้งชื่อ แฟลชไดร์ของเราครับ จากนั้นก็กด Start ได้เลย
จากนั้นโปรแกรมจะถามว่าต้องการ Format หรือไม่ ตอบ Yes ไปเลยครับรอแปปเดียว
จากนั้นโปรแกรมจะถามว่าต้องการ Format หรือไม่ ตอบ Yes ไปเลยครับรอแปปเดียว
Format เสจ็ดเราก็มาอยู่หน้านี้แล้วครับ
ให้ กด 1แล้ว Enter ไปได้เลยครับ
ให้ กด 1แล้ว Enter ไปได้เลยครับ
จาก นั้นโปรแกรมจะถามที่อยู่ที่เรา Copy ไฟล์จากแผ่นวินโดว์ ก็ Browse เลือกครับ
(ตรงนี้ถ้าใครไม่ได้ใส่ชื่อFolderที่เราCopyแผ่นไว้เป้น XP ก็ไปเปลียนซะนะครับ)
กด Yes
กด Yes
ตั้งชื่ออะไรก็ได้คับ แล้วกด OK
ตั้งชื่อไรก็ได้ แล้วกด OK
มันจะให้เราใส่Serial ของแผ่นวินโดว์ใส่ตามในรูปเลยครับ
ให้ใช้ Serial ของวินโดว์ที่เราทำนะ
ตรงนี้จะเป็นชื่อเครื่องหลังจากเราลงวินโดว์ครับ แนะนำ ให้ใส่เครื่องหมาย * ครับ เพราะ
มันจะสุ่มให้ไปเรื่อยๆไม่ซ้ำกัน
มันจะสุ่มให้ไปเรื่อยๆไม่ซ้ำกัน
การตั้ง พาสเวิร์ด ก็ไม่ต้องไปยุ่งครับ ผ่านไปได้เลย
เลือกเวลา หรือ Time zoneใครไม่รู้ก็ตามรูปไปครับ
ชื่อของ Workgroup
ตั้งค่า User Account ตั้งก็ได้ไม่ตั้งก็ได้
ฃ
เสจ็ดแล้วกด OK เลยครับ
เลือกหัวข้อที่ 2 แล้ว Enter ครับ เพื่อที่จะ Set ที่อยู่ของ FlashDrive ที่จะทำ ดังรูป
กดเลข 2 แล้ว Enter
กดเลข 2 แล้ว Enter
โปรแกรมจะให้เราเลือกไดร์ที่เป็น Flash Drive ที่เราจะเอามาทำ ก็เลือกไปเลยครับ
สังเกตตรงหัวข้อที่ 2 นะครับ ช่องว่างด้านหลัง จะเป็นไดร์ของ USB Drive ที่เราเลือกแล้ว
ซึ่งก่อนหน้าจะยังไม่มี ถ้าของใครไม่ตรงก็กด 2 กลับไปแก้ไขได้ครับ
ซึ่งก่อนหน้าจะยังไม่มี ถ้าของใครไม่ตรงก็กด 2 กลับไปแก้ไขได้ครับ
ลือกเมนูที่ 3 โดยการกด 3 แล้ว Enter เพื่อทำการสร้าง และ Copy ไฟล์ทั้งหมดที่ต้องใช้ลง Flash Drive
โปรแกรมก็จะทำCopy ไฟล์ครับ รอไปซักหน่อยนึง
โปรแกรมก็จะทำCopy ไฟล์ครับ รอไปซักหน่อยนึง
โปแกรมจะถามว่าต้องการ Copy ตัวติดตั้งและการตั้งค่าที่ทำไว้ ลงในไดร์ที่เลือกหรือไม่ ตอบ Yes ไปเลยครับ แล้วก็ออกไปทานข้าวรอได้เลย ราว 30-50 นาทีครับ นาน
พอเสร็จก็กด OK
เราก็จะได้Flash Drive ที่ Boot Windows ได้ล่ะ ครับ
เราก็จะได้Flash Drive ที่ Boot Windows ได้ล่ะ ครับ
ส่วนวิธีการลง
1.ใส่ usb ของเรา
2.รีสตาร็ทเครื่อง
3.มันขี้นมาแล้วให้กด 1 แล้วลงตามปกติ
พอเสร็ดขั้นตอนที่หนึ่ง คอมจะรีสตาร์ทเครื่องใหม่ แล้วให้กด 2 พอเสร็ด ขั้นตอนที่สอง จะรีสตาร์ทอีกที่ ก็ให้กด 2 อีกครั้ง
4.ให้ไปแก้ไข้ คลิกขวา ที่ My Computer เลือก Proproties ไปที่ Advanced แล้ว Startup and Recovery
ให้ กด settings กด Edit จะมีไฟล์ Notepad ขึ้นมา ให้ลบ บรรทัดสุดท้ายออก ลบให้ดี ๆ นะครับ แล้ว save เป็นอันเสร็ดครับ
ป้ายกำกับ:
ลงวินโดว์ด้วย usb
|
0
ความคิดเห็น
วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554
Lenovo ideaPad u160 Review
Notebook Lenovo ideaPad U160
มากันอีกแล้วสำหรับ Notebook Lenovo IdeaPad U160 มีอะไรมาให้เราได้ใช้กันบ้าง เริ่มจาก ซีพียูใช้ Intel Core i5 520UM 1.06 GHz แรม 2GB จอแสดงผลขนาด 11.6 นิ้ว 1366x768 Pixel ฮาร์ดดิสก์ 320GB ซึ่งมาพร้อมกับ OS Microsoft Windows 7 Home Premium 32 Bit ทั้งยังมี Wireless , Bluetooth , Cardreader มาให้ได้ใช้งาน ด้วยน้ำหนัก 1.38 กิโลกรัม
หน้าจอขนาด 11.6" ความละเอียดแบบ HD 1366 x 768,
รองรับ RAM ได้สูงสุด 4GB, Hard Drive สูงสุด 500GB,
กลล้อง Webcam ความละเอียด 1.3MP, 5-in-1 card reader, WiFi, Bluetooth (optional), 3G (optional), HDMI,
Battery ความจุ 3 หรือ 6-cell และ Windows 7 ที่มีให้เลือกระหว่าง Starter,
Home Basic และ Home Premium ครับ สำหรับในส่วนของราคานั้น Lenovo U160 เครื่องนี้จะมีราคาเริ่มต้นที่ $649 หรือประมาณ 21,500 บาท
ป้ายกำกับ:
Notebook Lenovo
|
0
ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554
การ์ดจอออนบอร์ด การ์ดจอ การ์ดจอแยก ชิพกราฟิกออนบอร์
การ์ดจอออนบอร์ด การ์ดจอ การ์ดจอแยก ชิพกราฟิกออนบอร์
VGA (Video Graphic Adaptor) ชุดประมวลผลภาพ มี 2 แบบคือ
1. อยู่บน Mainboard เรียกกันหลายแบบ เช่น On board(ออนบอร์ด), Integreted(อินทิเกรเต็ด), Build In (บิ้ลอิน), Share (แชร์) จะไปแชร์ RAM เครื่อง
2. แยกเป็นการ์ดต่างหาก ซึ่งข้อดีก็คือ จะไม่ไปแชร์ RAM เครื่อง ทำให้การแสดงผลทำได้ดีขึ้น
สำหรับท่านผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลายๆ ท่าน โดยเฉพาะแบบพกพา หรือ โน้ตบุ๊ค เวลาเดินเลือกเลือกซื้อ คงเห็นโปรโมชั่นจากแบรนด์ต่างๆ มาไม่น้อย บางท่านอาจสะดุุดตากับคำว่า "การ์ดจอแยก" พอไปถามเขาก็บอกว่ามันแรงกว่า "การ์ดจอออนบอร์ด" หลายท่านอาจสงสัยว่า แล้วตกลงการ์ดจอแยก กับ ออนบอร์ด มันคืออะไร ต่างกันอย่างไร แรงกว่าจริงไหม แล้วควรเลือกอะไรดี วันนี้เรามีคำตอบมาให้ครับ
สำหรับชิพกราฟิก หรือ การ์ดจอ ที่เราพูดๆ กันนั้นจะมีอยู่สองแบบ แบบแรกคือชิพกราฟิกที่ติดมากับเมนบอร์ดเลย หรือก็คือ ชิพกราฟิกออนบอร์ดนั่นเอง ซึ่งมีทั้งการรวมเอาแผงวงจรการประมวลผลเข้าไว้กับชิพเซ็ต หรือเป็นชิพกราฟิกติดมากับเมนบอร์ดก็มีครับ ข้อดีของชิพแบบออนบอร์ดนั้นก็คือ ไม่ต้องซื้อการ์ดจอติดเพิ่ม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง แต่ว่าชิพกราฟิกประเภทนี้ จะไม่มี หน่วยความจำที่ใช้ประมวลผล (VRAM) เป็นของตัวเอง จึงต้องแบ่งแรมจากเครื่องส่วนหนึ่ง ไปใช้ในการแสดงผล ทำให้หน่วยความจำของเครื่องหายไปส่วนหนึ่ง และคุณภาพของการประมวลผลก็สู้ชิพกราฟิกแบบแยกไม่ได้ครับ
ส่วนชิพกราฟิกแบบแยก หรือ การ์ดจอแบบแยก ก็คือชิพกราฟิกที่มีหน่วยความจำในการประมวลผล (VRAM) เป็นของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งแรมจากเครื่อง โดยทั่วไปจะมีความสามารถในการประมวลผลที่สูงกว่าชิพแบบออนบอร์ด แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงกว่า และหากเป็นรุ่นที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงๆ ก็อาจเกิดความร้อนที่สูง และกินไฟมากขึ้นอีกด้วย
VGA (Video Graphic Adaptor) ชุดประมวลผลภาพ มี 2 แบบคือ
1. อยู่บน Mainboard เรียกกันหลายแบบ เช่น On board(ออนบอร์ด), Integreted(อินทิเกรเต็ด), Build In (บิ้ลอิน), Share (แชร์) จะไปแชร์ RAM เครื่อง
2. แยกเป็นการ์ดต่างหาก ซึ่งข้อดีก็คือ จะไม่ไปแชร์ RAM เครื่อง ทำให้การแสดงผลทำได้ดีขึ้น
การ์ดจอออนบอร์ด |
สำหรับท่านผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลายๆ ท่าน โดยเฉพาะแบบพกพา หรือ โน้ตบุ๊ค เวลาเดินเลือกเลือกซื้อ คงเห็นโปรโมชั่นจากแบรนด์ต่างๆ มาไม่น้อย บางท่านอาจสะดุุดตากับคำว่า "การ์ดจอแยก" พอไปถามเขาก็บอกว่ามันแรงกว่า "การ์ดจอออนบอร์ด" หลายท่านอาจสงสัยว่า แล้วตกลงการ์ดจอแยก กับ ออนบอร์ด มันคืออะไร ต่างกันอย่างไร แรงกว่าจริงไหม แล้วควรเลือกอะไรดี วันนี้เรามีคำตอบมาให้ครับ
สำหรับชิพกราฟิก หรือ การ์ดจอ ที่เราพูดๆ กันนั้นจะมีอยู่สองแบบ แบบแรกคือชิพกราฟิกที่ติดมากับเมนบอร์ดเลย หรือก็คือ ชิพกราฟิกออนบอร์ดนั่นเอง ซึ่งมีทั้งการรวมเอาแผงวงจรการประมวลผลเข้าไว้กับชิพเซ็ต หรือเป็นชิพกราฟิกติดมากับเมนบอร์ดก็มีครับ ข้อดีของชิพแบบออนบอร์ดนั้นก็คือ ไม่ต้องซื้อการ์ดจอติดเพิ่ม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง แต่ว่าชิพกราฟิกประเภทนี้ จะไม่มี หน่วยความจำที่ใช้ประมวลผล (VRAM) เป็นของตัวเอง จึงต้องแบ่งแรมจากเครื่องส่วนหนึ่ง ไปใช้ในการแสดงผล ทำให้หน่วยความจำของเครื่องหายไปส่วนหนึ่ง และคุณภาพของการประมวลผลก็สู้ชิพกราฟิกแบบแยกไม่ได้ครับ
ส่วนชิพกราฟิกแบบแยก หรือ การ์ดจอแบบแยก ก็คือชิพกราฟิกที่มีหน่วยความจำในการประมวลผล (VRAM) เป็นของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งแรมจากเครื่อง โดยทั่วไปจะมีความสามารถในการประมวลผลที่สูงกว่าชิพแบบออนบอร์ด แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงกว่า และหากเป็นรุ่นที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงๆ ก็อาจเกิดความร้อนที่สูง และกินไฟมากขึ้นอีกด้วย
ป้ายกำกับ:
การ์ดจอ
|
0
ความคิดเห็น
วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554
สำหรับการ์ดจอ ATI Radeon
- เข้าเว็ป www.amd.com/us-en/
- ที่เมนู Download Drivers (ด้านขวาบน)
- ช่อง Component Category : เลือก Graphics
- ช่อง Operating System : เลือก Windows ที่เครื่องเราใช้อยู่ครับ
- ช่อง Product Line: เลือก Radeon
- ช่อง Product Model : เลือกรุ่นการ์ดจอที่เครื่องเราใช้ครับ
- คลิ๊กปุ่ม View Results ครับ
- คลิ๊กปุ่ม Download ( Catalyst Software Suite ) หรือ ( Display Driver)
- จะมีหน้าต่างขึ้นมา คลิ๊กที่ปุ่ม Save
- สังเกตช่อง Save in ด้านบนของหน้าต่าง แล้วให้เลือกห้องที่จะทำการเก็บไฟล์
- คลิ๊กปุ่ม Save ด้านล่างขวา ของหน้าต่าง
- หลังจากดาวน์โหลดไฟล์เสร็จ
- ให้ Uninstall ไดร์เวอร์ตัวเก่าออกก่อน แล้ว Windows จะทำการ Restart ครับ
- เข้า Windows ใหม่อีกครั้ง
- ให้ ดับเบิ๊ลคลิ๊กที่ไฟล์ที่โหลด Install ไดร์เวอร์การ์ดจอ เวอร์ชั่นใหม่
- ตัวโปรแกรมจะให้ทำการ Restart เครื่องครับ
* หากเข้าวินโดว์แล้ว พบว่าหน้าจอสีไม่ครบ แนะนำให้ทำการ Uninstall ไดร์เวอร์การ์ดจอเวอร์ชั่นเก่าออก รีสตาร์เครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วลงไดร์เวอร์เวอร์ชั่นใหม่อีกครั้งครับ
- เข้าเว็ป www.amd.com/us-en/
- ที่เมนู Download Drivers (ด้านขวาบน)
- ช่อง Component Category : เลือก Graphics
- ช่อง Operating System : เลือก Windows ที่เครื่องเราใช้อยู่ครับ
- ช่อง Product Line: เลือก Radeon
- ช่อง Product Model : เลือกรุ่นการ์ดจอที่เครื่องเราใช้ครับ
- คลิ๊กปุ่ม View Results ครับ
- คลิ๊กปุ่ม Download ( Catalyst Software Suite ) หรือ ( Display Driver)
- จะมีหน้าต่างขึ้นมา คลิ๊กที่ปุ่ม Save
- สังเกตช่อง Save in ด้านบนของหน้าต่าง แล้วให้เลือกห้องที่จะทำการเก็บไฟล์
- คลิ๊กปุ่ม Save ด้านล่างขวา ของหน้าต่าง
- หลังจากดาวน์โหลดไฟล์เสร็จ
- ให้ Uninstall ไดร์เวอร์ตัวเก่าออกก่อน แล้ว Windows จะทำการ Restart ครับ
- เข้า Windows ใหม่อีกครั้ง
- ให้ ดับเบิ๊ลคลิ๊กที่ไฟล์ที่โหลด Install ไดร์เวอร์การ์ดจอ เวอร์ชั่นใหม่
- ตัวโปรแกรมจะให้ทำการ Restart เครื่องครับ
* หากเข้าวินโดว์แล้ว พบว่าหน้าจอสีไม่ครบ แนะนำให้ทำการ Uninstall ไดร์เวอร์การ์ดจอเวอร์ชั่นเก่าออก รีสตาร์เครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วลงไดร์เวอร์เวอร์ชั่นใหม่อีกครั้งครับ
ป้ายกำกับ:
การแก้ปัญหา
|
0
ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554
Lenovo ThinkPad Edge E420 1141RP3
Lenovo ThinkPad Edge E420 1141RP3
Processor
CPU Intel Core i3-2330M (2.20 GHz, 3 MB L3 Cache)
Chipset Mobile Intel QM67 Express
Graphic system
Graphic Chip Intel HD Graphics 3000
Display
Type 14 inch WXGA (1366x768) LED Backlight anti-glare
Main Memory
Memory 2 GB DDR3
Hard Disk Drive
Hard Disk 500 GB 7200 RPM
Optical Disc Drive
Drive DVD Writer (Dual Layer Support)
Web Camera
Details Webcam 720p High Definition camera
Port & Interface
USB 2.0 3
USB 3.0 No
Firewire No
Display Port No
D-Sub/VGA Yes
e-SATA Yes
HDMI Yes
Card Reader 4-in-1 multicard reader
Express Slot No
Finger Print Yes
Connection
Wireless Lan Intel Wireless Wi-Fi Link 1000
Bluetooth Yes
LAN Yes
Modem No
Battery
Details 6 Cell Lithium-Ion
ป้ายกำกับ:
Notebook
|
0
ความคิดเห็น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)